วาโก้ หยุดผลิตชุดชั้นใน ทำ หน้ากากอนามัยแจกฟรี ฝ่าวิกฤติ Covid 19

วาโก้ หยุดผลิตชุดชั้นใน ทำ หน้ากากอนามัยแจกฟรี ฝ่าวิกฤติ Covid 19

จากสถานการณ์ Covid ที่ประชากรทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เนื่องจาก Covid สามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดายผ่านทางอากาศ และเพียงแค่สัมผัส จึงได้รณรงค์ให้ทุกคนป้องกันตัวเองโดยใส่หน้ากากอนามัย จึงมีแม่ค้าหลายคนกักตุนหน้ากากเอาไว้ขายในราคาแพงและหน้ากากจึงขาดตลาด

ล่าสุด ได้มี บริษัท วาโก้ ได้มีการประกาศนโยบายเร่งด่วนในการหยุดผลิตชุดชั้นใน และเดินหน้าผลิตหน้ากากอนามัยจากผ้าสเปเซอร์ ให้กับประชาชนชาวไทยฟรี เนื่องจากทราบว่าสถานการณ์นี้ส่งผลถึงค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย และหน้ากากราคาค่อนข้างสูง ซึ่งวาโก้รู้ว่าเงินทุกบาทมีค่า จึงขอแบ่งเบาภาระนี้ให้กับคนไทยและผ่านไปด้วยกัน

นายบุญดี อำนวยสกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า วาโก้มีมาตรกรป้องกันเชื้อ Covid 19 มาตั้งแต่ระยะแรก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในองค์กร และจากที่วาโก้คือผู้ผลิตชุดชั้นในและเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้หญิงไทย

ในวันนี้ที่คนไทยต้องเจอกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้เราไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสู้วิกฤตนี้ ร่วมกับคนไทยทุกคน จึงมีนโยบายเร่งด่วนให้หยุดการผลิตชุดชั้นใน เพื่อหันมาผลิตหน้ากากอนามัยจากผ้าสเปเซอร์

สำหรับเฟสแรกวาโก้ ได้ผลิตหน้ากากผ้าสเปเซอร์มอบให้พนักงานวาโก้ จำนวน 5000 ชิ้น และองค์กรอื่นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของ Covid 19 จำนวน 3000 ชิ้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จำนวน 1000 ชิ้น เพื่อใช้ในการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และอื่นๆ ตามที่ได้มีการขอมา รวมกว่า 15000 ชิ้น

นอกจากหน้ากากอนามัยแบบผ้าสเปเซอร์แล้ว วาโก้ยังมอบหน้ากากอนามัยผ้าฝ้าย (Cotton) ให้ประชาชนโดยรอบบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด จำนวน 1500 ชิ้น และหน้ากากอนามัยกระดาษให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 30000 ชิ้น

โดยนายบุญดีได้กล่าวต่อว่า สถานการณ์นี้ส่งผลค่าถึงครองชีพของผู้มีรายได้น้อย เพราะหน้ากากอนามัยทุกชนิดมีราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อได้ยาก หากเป็นผ้าสเปเซอร์หรือผ้าคล้ายกันที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดก็ราคาประมาณชิ้นละ 120 บาท เพราะวาโก้รู้ซึ้งว่าเงินทุกบาทมีค่า จึงขอแบ่งเบาภาระนี้และจับมือผ่านวิกฤติ Covid ไปด้วยกัน

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

เรียบเรียง siamvariety

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ