กลายเป็นอีกเรื่องราวที่สร้างความเศร้าใจให้กับผู้คนที่ได้รับรู้และชาวโซเชียลเป็นจำนวนมาก เมื่อได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Sara Soo ได้โพสต์ถึงเรื่องราวที่เธอได้รวบรวมเงินบริจาคจากเพื่อนๆ ไปสั่งซื้อหน้ากากนำเข้าจากเวียดนาม เพื่อที่จะทำเอาไปบริจาคให้ทาง รพ ได้โพสต์ผ่านเเฟซบุ๊คระบุว่า

วันก่อนน้องสาวเรารวบรวมเงินบริจาคจากเพื่อนๆไปสั่งหน้ากากกับร้านขายยาที่เขานำเข้าหน้ากากจากเวียตนาม 25000 ชิ้น ชิ้นละ 14.5 บาท เพื่อจะเอาไปบริจาคให้โรงพยาบาล ซึ่งน้องเราได้ติดต่อรพ.ไว้เรียบร้อย และกำลังจะไปรับหน้ากากจากร้านขายยๅ

แต่ ปรากฎว่าตำรวจบุกค้นร้านขายยๅ แล้วยึดหน้ากากไปหมดเลย น้องสาวเราจ่ายเงินไปแล้วเป็นแสนนะ พอไปเคลียที่โรงพักพร้อมให้ดูหลักฐานว่าได้ติดต่อ รพ ไว้แล้ว และโชว์อินสตาแกรมว่าได้มีการรวบรวมเงินจากเพื่อนๆเพื่อจะไปบริจาคจริงๆ ตำรวจก็ไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น จะตั้งข้อหาร้านขายยๅว่าขายเกินราคาท่าเดียว น้องเราบอกว่าเป็นของนำเข้าและร้านไม่บวกเพิ่มเลยเพราะรู้ว่าจะเอาไปบริจาค

ตำรวจก็หันมาบอกว่าถ้างั้นจะตั้งข้อหาน้องสาวเราแทนเพราะมีหน้ากากไว้ครอบครองเกินจำนวน เฮ้อ ก็บอกว่าจะเอาไปบริจาคก็ไม่เชื่อ สุดท้ายตำรวจยึดหน้ากากไปเป็นของกลางแล้วไม่คืน แล้วบอกให้น้องเราไปฟ้องเอาเงินคืนกับร้านยๅเองเพราะส่งมอบไม่สำเร็จ อะไรฟระแบบนี้ก็ได้เหรอ ก็ที่ส่งมอบกันไม่สำเร็จเพราะใครหล่ะ แล้วตอนนี้หน้ากากไปอยู่ไหน

ปล น้องสาวเราถามตำรวจว่าแล้วหมอกับพยๅบาลที่จะได้ใช้หน้ากากวันนี้หล่ะ ไม่คิดถึงบ้างเหรอ ตำรวจตอบว่า รพ ไม่ขาดแคลนหน้ากากสักหน่อย และถ้าอยากบริจาคก็ไปเข้าคิวซื้อกับกรมการค้าภายในที่เขาเอามาขายสิ แบบนั้นถูกกฎหมาย ไม่เกินราคาด้วย อ่า แล้วต้องต่อคิวนานแค่ไหนหล่ะ แล้วจะซื้อ 25000 ชิ้นจะขายมั้ยหล่ะ เฮ้อ

จากโพสต์ดังกล่าวก็ได้มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ความคิดเห็นชาวโซเชียล

ความคิดเห็นชาวโซเชียล

อย่างไรก็ตาม โพสต์ข้างต้นเป็นเพียงการฟังความข้างเดียว ซึ่งยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการถูกจับล่อซื้อหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และสาวคนดังกล่าวได้รวบรวมเงินบริจาคมาเพื่อซื้อหน้ากากหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

ที่มา Sara Soo

เรียบเรียง siamvariety