ผลวิจัยเผย คนไทยกว่าครึ่งประเทศ มีเงินออมในบัญชี ใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือน

ผลวิจัยเผย คนไทยกว่าครึ่งประเทศ มีเงินออมในบัญชี ใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือน

โกแบร์ บริษัทด้านประกันภัยและการลงทุน ที่มีฐานดำเนินงานในสิงคโปร์ เผยดัชนีสุขภาพการเงินของคนไทยในปี 2562 ว่า คนไทยถึง 56 เปอร์เซ็น มีเงินใช้ไม่ถึง 6 เดือน ถ้าหากต้องตกงาน โดยระบุรายละเอียดดังนี้

ส่วนกลุ่มที่มีเงินใช้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ถ้าต้องตกงาน มีอยู่ถึง 44 เปอร์เซ็น หรือเรียกได้ว่ากลุ่มคนที่สถานะทางการเงินในช่วงตกงานไม่น่ากังวลเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่น่ากังวล มีอยู่เกือบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม โกแบร์ ยังระบุอีกว่า คนไทยจำนวนมาก ที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ ยังไม่รู้สึกกังวลต่อสถานะทางการเงินของตัวเองในแต่ละเดือน เพราะคนจำนวนนี้มักดึงเงินเก็บของตัวเองมาใช้ และปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยหาใหม่ จนกระทั่งมารู้ตัวเมื่อต้องใช้เงินก้อนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น การรักษาพยาบาล หรือเมื่อตกงาน แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะพบว่าไม่มีเงินเหลืออยู่อีกเลย

ข้อมูลดังกล่าวของ โกแบร์ ยังสอดคล้องกับข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ว่า บัญชีธนาคารของผู้ฝากเงินในประเทศไทยถึง 4 จุด 7 ล้านบัญชี มีเงินฝากในแต่ละบัญชีไม่ถึง 50 บาท สะท้อนว่า คนไทยจำนวนไม่น้อย มีรายจ่ายจนแทบไม่เหลือเงินสำหรับเก็บออมเลย

บริษัทด้านการเงินรายนี้ แนะนำว่า การเก็บเงินให้อยู่นั้น สามารถทำได้ด้วยวิธีการ 5 ข้อดังต่อไปนี้

เก็บเงิน 5 ถึง 10 เปอร์เซ็น ไปเก็บในบัญชีธนาคารบัญชีหนึ่ง แยกไว้ต่างหาก

เคลียร์รายจ่ายที่จำเป็น อย่างเช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ค่าเช่าที่พักอาศัย

นำเงินที่เหลือ มาแบ่งใช้เป็นสัปดาห์

ศึกษาโปรโมชั่นและข้อเสนอ ของสินค้าและบริการต่างๆ ที่ใช้จ่ายบ่อยครั้ง เพื่อจ่ายเงินให้น้อยลง

คิดก่อนซื้อ ด้วยการเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของสินค้าและบริการ

ที่มา โกแบร์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ