แฉตาวัย 80 แจ้งความถูกทิ้ง หลังแบ่งที่ดิน ที่แท้ไม่ใช่ที่ดินตา

แฉตาวัย 80 แจ้งความถูกทิ้ง หลังแบ่งที่ดิน ที่แท้ไม่ใช่ที่ดินตา

จากกรณีคุณตาเที่ยง อายุ 80 ปี ชาวตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ช่วยเหลือ โดยคุณตาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อปี 2557 หลังจากภรรยาไม่อยู่แล้ว ก็เกิดปัญหาภายในครอบครัวเรื่องที่ดินมรดกที่เป็นชื่อของภรรยา โดยอ้างว่าหลังจากแบ่งสันปันส่วนโอนให้ลูกทั้ง 6 คนแล้ว ลูกก็ไม่เหลียวแลและโดนไล่ออกจากบ้าน จนต้องไปปลูกกระต๊อบเล็ก ๆ อาศัยอยู่คนเดียว

กระทั่งล่าสุดตาเที่ยง ผู้เป็นพ่อจะสูบน้ำออกเพื่อจับปลาในสระไปขาย แต่กลับถูกลูกต่อว่าห้ามไม่ให้สูบ โดยอ้างว่าพ่อไม่มีสิทธิ์เพราะสระและที่ดินดังกล่าวเป็นของบุตรจนเกิดการโต้เถียงกันรุนแรง

ถึงขั้นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ทำให้ บุตรไม่พอใจจึงได้ตัดน้ำตัดไฟออกจากกระต๊อบที่พ่อปลูกอาศัยอยู่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด้าน นางหน่อง นามสมมติ บุตรสะใภ้ของลตาเที่ยง ซึ่งแต่งงานกับลูกชายคนที่ 2 ของตาเที่ยง เปิดเผยว่า ตอนนี้บุตรของลุงทุกคนไปทำงานต่างจังหวัดบุตร ไม่ได้ทอดทิ้งพ่อแต่อย่างใด ซึ่งตนเองเป็นสะใภ้นั้นก็จะดูแล คอยส่งข้าวส่งน้ำอยู่ตลอด โดยเรื่องที่ดินนั้นบุตรก็มีการทำพินัยกรรมไว้ตั้งแต่แม่ยังไม่ไป

สาวคนโตได้ไป 4 ไร่ น้องชายคนเล็ก คือคนที่ 6 ได้ไปจำนวน 2 ไร่ และสามีของตนซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 2 ได้ไปจำนวน 3 ไร่ ส่วนอีกหนึ่งแปลงที่มี 11 ไร่นั้น ตนทราบว่ายังไม่ได้มีการแบ่งกันส่วนสาเหตุที่พ่อออกไปอยู่คนเดียวนั้น เพราะเคยพูดว่าอยู่กับใครไม่ได้ อยากอยู่ตามประสาคนแก่ และล่าสุดบุตรชายคนเล็กก็ห้ามสูบน้ำออกจากสระน้ำ เพราะกลัวว่าพ่ออาจจะเป็นลมตกลงไปในสระน้ำ

ขณะที่ ตาเที่ยง อายุ 80 ปี เปิดเผยว่า ถูกบุตรหลานไล่ออกจากบ้าน โดยให้เหตุผลว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดิน ซึ่งหลังจากนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเพราะอยากได้ที่ดินคืน สำหรับประเด็นเรื่องการสูบน้ำในสระ แต่บุตรไม่ให้สูบน้ำออกนั้น สาเหตุที่ตนต้องการจะสูบน้ำเพราะตนอยากได้ปลามาขาย เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อข้าวสาร เนื่องจากตนไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว วันที่ตนไปคุยกับบุตรชายคนเล็กที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ลูกก็ย้ำว่าตนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสูบน้ำ เพราะที่ดินเป็นของบุตรไปแล้ว

ส่วนกรณีที่ลูก ๆ บอกว่าตนชอบเอาเงินไปให้ผู้หญิงนั้น ไม่เป็นความจริง ตนจะหาเงินจากไหนไปให้ผู้หญิงอีกทั้งตนก็อายุเยอะมากแล้วด้วย ยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจลูก ๆ เพราะตนให้ลูกทุกสิ่งแต่พอตนแก่กลับมาทำกับแบบนี้ สุดท้ายไม่ขอพูดอะไรกับลูก เพราะให้อภัยบุตรมาหลายครั้ง แต่ก็ยังโดนไล่ออกจากบ้านถึง 2 ครั้ง เชื่อว่าหากบุตรเสียใจจริงคงไม่ทำแบบนี้

นอกจากนี้ นางพิมพ์ นามสมมติ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า บุตรของตาเที่ยงดูแลพ่อตัวเองดีทุกคน แต่ตาเที่ยงเป็นคนเอาแต่ใจ ซึ่งบุตร ก็ไม่เคยไล่ แต่ครั้งนี้เกิดเรื่องเพราะตาเที่ยงโมโหที่บุตรไม่ให้สูบน้ำออก เพราะกลัวแกเป็นลมจมน้ำ

นิสัยใจคอของตาเที่ยงเท่าที่เห็นเป็นคนโมโหร้าย อยู่กับใครก็ไม่ได้ โดยคนในหมู่บ้านรู้นิสัยดีว่าเป็นอย่างไร ส่วนปัญหาที่ดินตนพอทราบว่ามีปัญหากับบุตร มาโดยตลอด ซึ่งมรดกที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่ดินของตาเที่ยง แต่เป็นที่ดินของภรรยาที่ไม่อยู่แล้ว

ไม่พลาดทุกข่าวสาร รู้ลึก รู้จริงก่อนใคร ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ แอดมาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่นี่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ