หลังจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟเรล็ตในไทยภายในปี 2563 พร้อมกับการขายโรงงานผลิตรถยนต์ และเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยองให้กับ เกรทวอลล์ มอเตอร์ส กลุ่มธุรกิจยานยนต์รายใหญ่จากจีน ที่คาดว่าจะจัดการเสร็จเรียบร้อยภายในปี 2563 เช่นกัน โดยจะเหลือไว้แต่ด้านการบริการหลังการขาย ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับดีลเลอร์ทั่วประเทศ ว่ารายใดจะยังคงเป็นพันธมิตรด้านการให้บริการดูแลรถยนต์กับเชฟโรเลตต่อไปหรือไม่

ประเด็นหนึ่งที่มีคนจับตาดูกันมากคือ รถยนต์ที่ยังค้างสต็อกอยู่ในขณะนี้ประมาณ 4000 คัน จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเชฟโรเลตเตรียมประชุมร่วมกับดีลเลอร์เร็วๆ นี้ มีการคาดการณ์กันว่า แนวทางหนึ่งที่เชฟโรเลตจะนำมาใช้ คือ การลดราคาจำหน่ายลง เพื่อให้สามารถระบายสต็อกได้รวดเร็ว

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา เชฟโรเลต ก็มีการจัดแคมเปญด้านราคาอย่างต่อเนื่อง เช่น ปัจจุบัน รถในกลุ่มปิกอัพ โคราโด ลดราคาประมาณ 6 ถึง 7% ขณะที่ รถพีพีวี เทรลเบลเซอร์ รุ่น 4 2 แอลที ฟีนิกซ์ ลดราคา 13% พร้อมแถมชุดแต่งให้อีก มูลค่า 2 จุด 51 หมื่นบาท

และรถที่มีสัดส่วนการลดราคามากที่สุดคือ แคปติวา แอลที 5 ที่นั่ง โดยลด 14%

ทั้งนี้ แคปติวา เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดของเชฟโรเลต ที่เพิ่งเปิดตัวช่วงปลายปีที่แล้ว แต่มีสัดส่วนการลดราคาสูงสุด นั่นเป็นเพราะตลาดตอบรับแคปติวาไม่ดีนัก

การที่ในภาวะปกติก่อนประกาศเลิกขายรถอย่างเป็นทางการ เชฟโรเลต ก็จัดแคมเปญค่อนข้างแรง กว่า 10% ดังนั้นหากต้องการโละสต็อกอย่างรวดเร็ว ก็น่าจะได้เห็นการลดราคาหลายสิบ สำหรับรถบางรุ่นเกิดขึ้นได้เช่นกัน

แต่แน่นอน หากเป็นแนวทางนี้ก็จะสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีกับลูกค้าเก่า และสร้างผลกระทบโดยตรงอย่างเต็มที่กับราคารถในตลาดมือสองเมื่อต้องการขายรถ

ซึ่งทั้งหมดนี้คงต้องรอดูความคืบหน้าในการประชุมร่วมกับ ดีลเลอร์ เพราะรถในสต็อก ทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็กระจายอยู่ตามดีลเลอร์ต่างๆ แล้วในขณะนี้

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

ไม่พลาดทุกข่าวสาร รู้ลึก รู้จริงก่อนใคร ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ แอดมาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่นี่