อยู่ต่อไม่ไหว ร้านหนังสือการ์ตูนในไทย ประกาศปิดสาขาแล้ว

อยู่ต่อไม่ไหว ร้านหนังสือการ์ตูนในไทย ประกาศปิดสาขาแล้ว

วันที่ 2 ธันวาคม 2562 ทีมงานสยามวาไรตี้รายงานว่า กรณี เพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า ประกาศ Fc มังงะที่รักทุกท่าน ทางร้าน OHAYO สาขาเดอะมอล์ งามวงศ์วาน จะปิดร้านวันที่ 30 พย นี้ ต้องขอขอบคุณแฟนคลับทุกท่าน ที่ได้ให้การอุปการะคุณกับทางร้านมาตลอด 28 ปี หวังว่าคงจะได้รับการสนับสนุนจากท่านต่อไป ที่ร้าน OHAYO สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้นใต้ดิน ด้วยรักและคิดถึง ร้านโอฮาโยเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กชื่อ Online Station ได้โพสต์ภาพข้อความระบุว่า ร้านหนังสือการ์ตูนในไทย ยังไปต่อไหวหรือไม่ ช่วงนี้เพื่อน ๆ หลายคนที่เป็นแฟนหนังสือการ์ตูน คงจะใจหายกับหลาย ๆ ร้านที่ทยอยปิดตัวลง แอดมินเองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นร้าน OHAYO สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน รวมถึงร้าน VBK และร้านใหญ่ๆที่ต่างจังหวัดอย่างปรินซ์บุ๊คสโตร์ก็ลดราคาปิดกิจการกันไปแล้ว

จากที่ได้พูดคุย บ้างก็ว่ารับแรงกดดันรอบด้านไม่ไหว ธุรกิจหนังสือไม่เหมือนกับธุรกิจอื่น ถ้าคุณสั่งมาและขายไม่ได้ สุดท้ายแล้วหากไม่เก็บดองในโกดัง ก็ต้องทำลายทิ้ง ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นา ๆ ไหนจะค่าเช่าที่อีก และก็ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ ที่ เขามองข้ามร้านหนังสือการ์ตูนไปแล้ว

ในขณะที่บางคนก็ว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนหันไปนิยมอ่านการ์ตูนเถื่อนมากกว่า เพราะมันหาง่าย แค่กดในมือถือก็เจอแล้ว มีทุกเรื่อง เร็ว ไว ไม่ต้องรอ LC หรือบางเรื่องแม้จะมี LC ในไทย แต่ก็โดนหาว่าเอาไปดองบ้างอะไรบ้าง มันไม่ทันใจ ในปัจจุบันเว็บอ่านการ์ตูนเถื่อนผุดขึ้นมากมาย

และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เด็ก ๆ จำนวนไม่น้อยกล่าวว่า สาเหตุที่เขาดูการ์ตูนเถื่อน เนื่องจากราคาที่มันสูงขึ้น เมื่อการดูการ์ตูนเถื่อนมันฟรี เขาก็เลยไปหาของฟรีมาอ่านแทน ขณะเดียวกัน บางคนกลับมองว่าราคาอาจจะไม่ใช่ปัจจัย

ยกตัวอย่างในญี่ปุ่น ราคาหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งก็ตกประมาณ 300 ถึง 500 เยน ประมาณ 100 กว่าบาท เขาก็อยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่ค่าครองชีพสูงกว่ามาก บ้านเราแต่ก่อนเริ่มที่แถว ๆ 30 บาท แต่ตอนนี้ราคาพุ่งไปถึง 50 ถึง 80 บาท หรือมากกว่านั้น

พอมาเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ มันจึงดูไม่ค่อยเหมาะสม เด็กรุ่นใหม่ซื้อหนังสืออ่านน้อยลง จะเหลือแต่คนรุ่นเก่าที่นับวันก็ไม่ได้อ่านการ์ตูนใหม่ ๆ กันแล้ว บ้างก็ว่างานสัปดาห์หนังสืออาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้ร้านรายย่อยต่าง ๆ ปิดกิจการ เพราะด้วยสายป่านที่อาจจะยาวต่างกัน และราคาขายที่ขายได้ต่างกันไปอีก

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งจากที่ได้พูดคุยเท่านั้น อย่างไรก็ดี แอดมินเองคิดว่า วัฒนธรรมการบริโภคก็มีส่วนไม่น้อย ราคาก็ส่วนหนึ่ง หลาย ๆ คนที่ชอบซื้อหนังสือการ์ตูนเพราะชอบการเปิดอ่านมากกว่า ชอบกลิ่นของมัน ชอบปก หลาย ๆ คนกล่าวว่ามันคือของสะสม แล้วสำหรับเพื่อน ๆ คิดว่าวงการหนังสือการ์ตูนในไทย ยังไปต่อไหวหรือไม่

ล่าสุดการมาของแอป Manga Plus ของ Shueisha ที่ให้ดูกันฟรี ๆ เริ่มมีแปลไทย 2 เรื่อง ในแบบถูกลิขสิทธิ์ด้วย

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ร้านหนังสือที่ยังเหลืออยู่ทุก ๆ ท่านครับ

โพสต์ดังกล่าว

ข้อมูลจาก Online Station

เรียบเรียง สยามวาไรตี้

ไม่พลาดทุกข่าวสาร รู้ลึก รู้จริงก่อนใคร ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ แอดมาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่นี่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ