จากกรณีที่ นางสาว พรธิดา เล่าว่า ตนกับ นายวิจักร ทำงานอยู่โรงงานที่เดียวกันย่านถนนปู่เจ้า และอยู่กินกันมาประมาณ 3 ปี โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนกับ นายวิจักร ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 62 ที่ถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว จำนวน 1 ใบ ไปขึ้นเงินที่ร้านจำหน่ายสลากที่บริเวณตลาดครุใน พร้อมกับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จะออกประจำงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 62 จำนวน 2 ใบ จากนั้นตนกับ นายวิจักร ก็ใช้ชีวิตตามปกติ

จนมาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนกับ นายวิจักร ก็ทราบว่าลอตเตอรี่ที่ซื้อมา 2 ใบนั้น ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ คือหมายเลข 017223 จากนั้นเวลา 5 โมง จึงพากันเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ พระประแดง เป็นหลักฐาน พร้อมกับเซ็นลายมือชื่อของตนและนายวิจักร ไว้ที่ด้านหลังของสลากที่ถูกรางวัล จากนั้นได้ถ่ายรูปคู่ร่วมกันพร้อมกับสลากรางวัลที่ 1 ที่ สภ พระประแดง

ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กรณีแบบนี้พี่น้องประชาชนก็จะถามว่าสลากเป็นของใคร ต้องดูก่อนว่า 1 จดทะเบียนสมรสหรือไม่ ถ้าไม่จดต้องดูอีกว่าใครเป็นคนซื้อคนนั้นก็เป็นเจ้าของคนเดียวล้วนๆ ถึงแม้จะเป็นผัวเมียกัน เพราะไม่ใช่เป็นการทำมาหาได้ร่วมกัน ผมเคยทำคดีแบบนี้มาแล้วที่บุรีรัมย์ อย่างที่ 2 ถ้าจดทะเบียนสมรส ทรัพย์สินอันนี้ก็เป็นสินสมรสทั้งสองฝ่ายมีส่วนเท่ากัน

โพสต์ดังกล่าว

3 ต้องดูว่าเวลาไปซื้อเมียหรือผัวไปซื้อ ถ้าไปซื้อคนเดียวใครซื้อก็เป็นของคนนั้น ถ้าสองคนไปร่วมกันซื้อ หรือนำเงินของทั้งสองฝ่ายไปซื้อก็กรรมสิทธิ์รวม ดังนั้นในกรณีนี้เท่าที่ทราบรู้สึกว่าจะไม่ได้จดทะเบียนสมรส อันที่สองเรื่องซื้อไม่ชัดเจน อันที่สามบอกลงชื่อทั้งสองฝ่าย ถ้าเป็นกรรมสิทธิ์รวม มีลายเซ็นหลังสลากสองคนแล้วผัวเชิดสลากหนี สามารถแจ้งความยักยอกได้ แต่ทางที่ดีไปอายัดก่อน ตกลงกันดีกว่าครับ อย่าไปสู้กันเลยเดี๋ยวจะยาวเหมือนคดี 30 ล้านก่อนหน้านี้

คลิป

ขอบคุณ ทนายคลายทุกข์

เรียบเรียง สยามวาไรตี้

ไม่พลาดทุกข่าวสาร รู้ลึก รู้จริงก่อนใคร ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ แอดมาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่นี่