ธนาคารคืนเงิน 5 ล้านให้เฮียหมาแล้ว ลั่นถ้าจะให้แค่1พัน เก็บไว้เถอะ ผมมีเงิน

ธนาคารคืนเงิน 5 ล้านให้เฮียหมาแล้ว ลั่นถ้าจะให้แค่1พัน เก็บไว้เถอะ ผมมีเงิน

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงและต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ข่าวสารเมืองปราการ v2 ได้โพสต์เตือนภัย พร้อมกับระบุข้อความว่า

เสี่ยเจ้าของสวนอาหารฝากเงิน 5 ล้าน แต่พออัพสมุดกลับไม่มีเงิน ตรวจสอบกับธนาคาร พบมีการโยกย้ายหลายขั้นตอน

เสี่ยเจ้าของสวนอาหารชื่อดังในสมุทรปราการ ฝากเงินออมกับธนาคาร 5 ล้านบาท ผ่านไปนำสมุดบัญชีไปปรับสมุด ไม่พบเงินในบัญชีสักบาท แถมสมุดบัญชีถูกยกเลิก

เวลาประมาณ 1 ทุ่ม วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นายเอกพัฒ เจ้าของสวนอาหารชื่อดังในสมุทรปราการ เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ว่าเงินจำนวน 5 ล้านบาท ที่ฝากออมไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ในสาขานิคมอุตสาหกรรมบางปูหายไป และสมุดบัญชีเงินฝากได้ถูกยกเลิก เมื่อตรวจสอบกับธนาคาร พบมีการโยกย้ายหลายขั้นตอน และปลอมลายเซ็นเพื่อเบิกเงิน และมีการทำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินอีกหลายครั้ง นอกจากนี้มีการแอบอ้างเป็นเจ้าของบัญชีโทรศัพท์แจ้งทางสำนักงานใหญ่เพื่อเพิ่มวงเงินในการกดแต่ละวันด้วย

โดยล่าสุดนายเอกพัฒ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 61 ตนได้นำเงินกว่า 5 ล้านบาท ไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู ระหว่างนั้นพนักงานธนาคารได้แนะนำตนว่าควรฝากเป็นประเภท 12 เดือน เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยมากว่าฝากแบบออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าบัญชีนี้ไม่ได้เบิกออกมาใช้จ่ายอยู่แล้วจึงได้ตอบตกลง และได้มีเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไว้ในบัญชีตามขั้นตอนปติ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีดังกล่าวอีกเลย ทั้งนี้ พนักงานแจ้งว่าเงิน 5 ล้าน ที่ฝากในบัญชีประเภท 12 เดือน ถูกย้ายออกไปใส่ไว้ในบัญชีที่ค้ำประกันธุรกิจ ที่มีเงินในบัญชีกว่า 1 แสนบาท และมีการถอนเงินไปกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งลายเซ็นไม่ใช่ของตน และตอนนี้ไม่รู้ว่าเงินทั้งหมดอยู่ไหน เนื่องจากสมุดบัญชีทั้ง 2 เล่มถูกปิดไปแล้ว

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

ต่อมาในวันนี้ 15 พฤศจิกายน สภ.บางปู พนักงานสอบสวนเรียกตัว น.ส.วรรณี สงวนนามสกุล อายุ 34 ปี ผู้ถูกกล่าวหายักยอกเงินนายเอกพัฒเข้าสอบปากคำ โดยมีตัวแทนจากธนาคารนำเอกสารหลักฐานการยักยอกเงินของ น.ส.วรรณีมามอบให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารต้นสังกัดได้ตรวจสอบพบบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรเอทีเอ็มที่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีของนายเอกพัฒอยู่ที่ตัวของน.ส.วรรณี โดยมีการเบิกเงินออกไปวันละไม่ต่ำกว่า 100000 บาท และเจ้าตัวยอมรับว่านำไปใช้ส่วนตัว ขณะที่การสอบสวนเบื้องต้น น.ส.วรรณี ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล

ล่าสุดทางธนาคารกรุงเทพได้รับผิดชอบด้วยการคืนเงินจำนวนกว่า 5 ล้าน ที่นายเอกพัฒฝากไว้ตั้งแต่ปี 2561 โดยคืนทั้งเงินฝากและดอกเบี้ย ทั้ง 2 บัญชี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะทำการเยียวยาให้อย่างสมเหตุสมผล

ด้าน นายเอกพัฒ ผู้เสียหาย เปิดใจว่า ขณะนี้ตนไม่ติดใจแล้ว เรื่องที่เงินในบัญชีหายอาจเกิดจากความผิดพลาดส่วนใดส่วนหนึ่งของทางธนาคาร แต่ตอนนี้ทางธนาคารกรุงเทพก็ได้คืนยอดทั้งหมดตามจำนวนที่เราพอใจให้แล้ว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเราได้รับความพอใจในระยะหนึ่งเท่านั้น แต่เราก็ยังมีความเสียหายอยู่ซึ่งต้องแล้วแต่ทางธนาคารวิเคราะห์ว่าสมควรจะเยียวยาแค่ไหน แต่ถ้าบอกว่าจะเยียวยาแค่การจ่ายค่ารักษาพยาบาล จำนวน 1 พันกว่าบาทนั้น ก็เก็บไว้เถอะ ผมมีตังค์ครับ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

เรียบเรียง สยามวาไรตี้

ไม่พลาดทุกข่าวสาร รู้ลึก รู้จริงก่อนใคร ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ แอดมาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่นี่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ